หากรู้สึกเหมือนจะมีไข้ ควรกินยากันไว้ก่อนจะดีไหมเอ่ย ?

 อย่างที่รู้รู้กันอยู่ว่าในช่วงนี้สภาพอากาศประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาก  ยิ่งมีปัญหาเกี่ยวกับฝุ่นละอองและควันพิษในอากาศมาก คนส่วนใหญ่ก็มักจะมีอาการเวียนหัว ปวดหัว เจ็บคอ ไอและจามกันมาก คนแก่หลายคนจึงมักจะบอกให้กินยาดักเอาไว้ก่อนเพื่อไม่ให้อาการแย่ลงไปยิ่งกว่าเดิม แต่มันจริงหรือเปล่าสำหรับคำบอกเล่าของคนแก่ และหากกินเข้าไปแล้วโดยที่เรายังไม่ได้เป็นอะไรมากจะส่งผลต่อร่างกายของเราหรือไม่ วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ

      อย่างที่เร่ารู้กันดีว่ายาพาราเซตามอล หรือยาไทลินอล  หรือแม้แต่ยาแก้ไขชนิดต่างต่างนั้นส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติที่จะช่วยลดอาการปวด ลดไข้ หรือลดการมีน้ำมูก แต่ได้เขียนเอาไว้ว่ากินแล้วจะช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยได้ ดังนั้นการที่เรากินยาเหล่านี้เข้าไปโดยที่เราไม่ได้มีอาการป่วยจะไม่ส่งผลอะไรกับการร่างกายที่จะเป็นการช่วยให้ไม่ให้เป็นไข้ได้

มันจะช่วยได้ก็ต่อเมื่อ เราปวดหัวแล้วกินยาลดอาการปวดหัวนั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่การที่เรายังไม่ปวดหัวแล้วกินเข้าไปก่อนจะไม่สามารถป้องกันการปวดหัวได้ และอย่างที่เราทราบกันดีกว่าการกินยามากมากจะมีผลเสียต่อตับของเราเพราะต้องทำงานหนัก

ดังนั้นเราจึงไม่ควรที่จะกินยาสำหรับเพื่อป้องกันการเกิดโรค เพราะโดยปกติแล้วยาทุกประเภทจะมีการระบุเอาไว้ชัดเจนว่าไม่ควรกินว่าละไม่เกินกี่มิลลิกรัมหรือ ไม่ควรกินติดต่อกันกี่วันต่อเนื่องเพราะจะส่งผลให้ตับทุกทำลายได้ มีผลต่อการเสียชีวิตได้เช่นกัน ดังนั้น เราจึงไม่ควรที่จะกินยาดักโรค แต่ควรให้เกิดโรคก่อนแล้วจึงค่อยกินยาเพื่อรักษา

และทางที่ดีเราควรจะดูแลร่างกายของตัวเราเองให้แข็งแรงจะได้ไม่ต้องกินยาใดใดเลย และในการดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเมื่อเราเริ่มรู้สึกว่าเราเหมือนจะป่วยนั้นเราลองมาทำสิ่งต่อไปนี้แทนการกินยาดักจะดีที่สุดนั้นก็คือ ดื่มน้ำเยอะเยอะ โดยน้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นแทนน้ำเย็นจะดีที่สุด

ซึ่งการดื่มน้ำจะช่วยลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกายได้รวมถึงหากมีอาการเจ็บคอ หรือมีน้ำมูกก็จะช่วยลดการเจ็บคอและขับเสมหะออกมาจากคอได้เช่นกัน และเรายังสามารถกินวิตามินซี  ที่จะช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกายเราเพื่อเอาไปต่อสู้กับโรคหวัดได้ด้วย และสิ่งที่สำคัญทีขาดไม่ได้เลยก็คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

 

 

สนับสนุนโดย  entaplay