มารู้จักกับโรคลมเข้าสมองกันเถอะ 

         หากฟังแค่ชื่อหลายคนคงไม่เชื่อใช่ไหมคะว่า โรคนี้จะมีอยู่จริงในโลกใบนี้ แต่เชื่อเถอะค่ะว่านี่คือชื่อของโรคจริงจริงและก็มีคนเคยเป็นโรคนี้มาแล้วจริงจริง โดยคนที่เป็นโรคนี้ก็เคยมีคนไทยเป็นด้วยค่ะ ซึ่งโรคนี้เกิดจากการที่คนเรานั้น เอามือไปปิดกั้นการออกของลม  เช่น เวลาที่เราต้องการจะจาม โดยปกติแล้วเพื่อมารยาทเราจะเอามือปิดทางปาก

ซึ่งบ้างคนก็จะเอามือนั้นป้องทั้งปากและทั้งจมูกไปพร้อมพร้อมกัน ซึ่งการปิดทั้งปากและจมูกตอนที่เราจามนี่ละค่ะที่ทำให้เราเกิดเป็นโรคนี้ขึ้นมาได้ อยากรู้ไหมค่ะว่าเป็นได้อย่างไร  สำหรับโรคนี้นั้นเวลาที่เราจาม สังเกตไหมค่ะว่าจะมีลมออกมาจากทางปากและทางจมูกของเราหรือถ้าหากเราลองเอามือปิดจมูกแน่นแน่น เราก็จะรู้สึกหูอื้อ

เพราะลมในร่างกายของเราที่มันต้องการที่จะพุ่งออกทางจมูกมันไม่รู้จะออกไปทางไหนได้เพราะเราปิดทางออกเอาไว้ ทำให้เรามีอาการหูอื้อนั่นเอง เพราะลมมันคงอยู่ในหูของเรา แต่กรณีที่ลมเข้าสมองนี้ เพราะแรงของลมที่เราจะจามออกมานั้น มันมีความเร็วมาก ซึ่งความเร็วที่ว่านั้นสูงถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยที่เดียว

พอเราเอามือปิดทางออกของลมทั้งทางปากและทางจมูกก็เลยทำให้ลมต้องหาทางออกทางอื่นนั่นเองและโพรงที่ลมจะสามารถวิ่งผ่านได้ก็คือ ท่อที่มีการเชื่อมต่อกันระหว่างปากกับหูชั้นกลางและถ้าลมวิ่งผ่านไปทางนี้ก็จะวิ่งทะลุไปยังสมองอาจทำให้เกิดอาการรั่วได้ เพราะกำลังของลมที่แรงแล้วไม่มีทางออก

ซึ่งผลข้างเคียงนั้นจะมีผลทำให้หูของเราทะลุได้ หรืออาจจะมีอย่างอื่นตามมาเช่น ปอดทะลุ หรือแม้แต่โรคเส้นเลือดในแตก  ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่กล่าวมานี้ เคยมีเคสคนเคยเป็นมาแล้ว และเป็นคนไทยด้วย ดังนั้นหากเราอยากจามก็ควรปล่อยให้เราจามได้ตามที่ร่างกายต้องการเพียงแค่หากจะมีการจามต่อหน้าคนอื่นนั้น

เราอาจจะต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นก่อนที่จะจาม หรือหากผ้าปิดไม่ต้องแน่นมากนักก่อนที่จะจาม  เท่านี้ก็จะสามารถช่วยให้เราจามโดยที่เราไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเป็นโรคลมเข้าสมองแล้วค่ะ อย่างไรก็ดีโรคนี้ถึงแม้ว่าจะมีคนเคยเป็นมาก่อนแต่ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้กันน้อยมาก ดังนั้นไม่ต้องตกใจกลัวไปนะคะ

 

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยฮานอย เว็บไหนดี

รหัสพันธุกรรมรู้เอาไว้แก้ไขได้ทัน

ซึ่งในปัจจุบันนี้ในการตรวจพันธุกรรมนั้นสามารถทำได้จากอะไรไม่ได้มาจากเลือดไม่ได้มาจากการตรวจอุจระไม่ใช่แต่เราจะใช้กระพุ้งแก้มการตรวจพันธุกรรมคือการตรวจเซลล์และเซลล์ที่มีการผลิตอยู่ด้วยทุกวันมีเซลล์อยู่เยอะก็คือผนังกระพุ้งแก้มของเรา

โดยการนำเอาสำลีขูดใช้เครื่องพิเศษในการจับใช้น้ำยามาตรวจแล้วส่งไปตรวจที่ศูนย์เป็นการบอกมาว่าพันธุกรรมคือรหัสสมบัติจากพ่อและแม่เราและบรรพบุรุษเราจะมีโรคอะไรติดมาบ้างนี่คือสิ่งที่ทุกคนอยากจะรู้ใช่สิ่งที่เป็นเมจิกมหัศจรรย์แล้วก็ไม่ใช่การบอกว่าฉันตรวจขึ้นมาแล้วฉันเป็นฉันจะต้องแย่แน่แล้วก็ไปซึมเศร้ากันไม่ใช่แบบนั้น

เนื่องจากในการเป็นหมอเวชศาสตร์ชะลอวัยเราได้เล่าให้ฟังว่าอาชีพหรือการทำงานของหมอในยุคสมัยใหม่จะเหมือนับการจับผู้ร้ายถ้าเรามีคนร้ายและเรามีข้อมูลมีหลักฐานเยอะขึ้นเรากสามารถป้องกันโรคร้ายเหล่านั้นได้ดียกตัวอย่างวันนี้เสียหน่อยเรื่องพันธุกรรม

นอกจากนี้พันธุกรรมสามารถเอากระพุ้งแก้มทมน้ำลายออกมาแล้วส่งไปตรวจใช้เวลาเป็นเดือนกว่าเขาจะต้องหาว่าเรามีรหัสอะไรบ้างปัจจุบันนี้เขาแบ่งเป็นคนเอเชียเขามีโรคแบบหนึ่งคนแอฟริกันก็จะเป็นดรคอีกแบบหนึ่งคนฝรั่งก็จะเป็นโรคอีกแบบหนึ่ง

ดังนั้นในเอเชียก็จะมีโรคหลายโรคความเสี่ยงก็จะขึ้นมาเลยหลายระดับพันธุกรรมข้อแรกตรวจครั้งเดียวตอนเกิดมาตรวจตอนอายุ50ตรวจตอนอายุ100หนึ่งไม่เปลี่ยนเพราะมันเปลี่ยนไม่ได้เพราะนี่คือพิมพ์เขียวเราปัจจุบันเราสามารถตรวจได้หลายอย่างในการช่วยในการป้องกันอาจจะมีความเสี่ยงสูงคืออายุเยอะๆไม่ต้องรอมากก็เป็นแล้ว

สำหรับเสี่ยงกลางก็คือการที่เราช่วยพากันประคับประคองกันกินวิตามินออกกำลังกายหรือหลีกเสี่ยงสิ่งกระตุ้นให้เป็นช้าลงเสี่ยงต่ำไม่ค่อยเสี่ยงเท่าไหร่อย่างเช่นคนๆนี้ไม่มีเรื่องมะเร็งปอดไม่มีพันธุกรรมอะไรเลยสุบุหรี่ทุกวันวันละสามซองทุกวันเป็นเราต้องเหลือพื้นที่ด้วยว่าหากเราใช้พื้นที่ไม่ดียังไงก็ต้องลงโทษอยู่ดี

ซึ่งในปัจจุบันนี้เราสามารถตรวจรหัสพพันธุกรรมได้หลายอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นหนึ่งนายเอนามสมมุติมีโอกาสที่จะเป็นมะมเร้งลูกหมากมะเร็งปอดมะเร็งละไส้เบาหวานความดันไขมันโรคหัวใจเส้นเลือดแตกเส้นเลือดตีบภูมิแพ้ตัวเองโรคพุ้มพวงโรคตาบอดก่อนวัยกระดูกพรุนหรือเข่าเสื่อมโรคอ้วนได้บ้างหรือไม่อัลไซเมอร์มีอยู่พาร์กินสันมีอยู่

เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้เป็นโรคพันธุกรรมที่เราได้กล่าวออกมาแต่ยังไม่แต่เยอะแสดงว่าเรารู้เหล่านี้แล้วเราสามารถใช้ประกอบในการดูว่าผลเลือดคุณคุณพ่อคุณอาจจะมีพันธุกรรมตัวคุณก็มีเป็นการเตือน

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  แทงหวยหุ้นดาวโจนส์

อาหารที่ควรมียามที่เราฉุกเฉิน

เมื่อเจอกรณีฉุกเฉินหรือกรณีวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตทางธรรมชาติหรือวิกฤตไวรัสระบาดมีการปิดเมืองหรือเหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เราไม่สามารถดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ดังนั้นเราควรที่จะมีอาหารหรืออุปกรณ์ในการที่จะสามารถใช้ในการดำรงชีวิตต่อไปได้ในกรณีฉุกเฉินหรือวิกฤตต่างๆนั่นเอง

ก่อนที่เราจะเจอวิกฤตต่างๆ สิ่งที่เราควรมีและสิ่งที่เราควรเตรียมความพร้อมนั้นคือ สิ่งที่สำคัญที่สุดและสิ่งที่มนุษย์นั้นขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำเปล่า ซึ่งถ้าหากร่างกายของเรานั้นมีการขนาดน้ำเกินสามวันนั้นร่างการของเราก็จะอยู่ในภาวะอันตรายและอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ โดยร่างการเรานั้นต้องการน้ำปริมาณ 1.5 ลิตรในการดำรงชีวิตในแต่ละวัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถึงจะเป็นอาหารที่ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากนัก

แต่เป็นอาหารที่จำเป็นมากในยามวิกฤตเพราะเป็นอาหารที่ทำง่ายและรสชาติมีให้เลือกหลากหลายและสามารถหาซื้อได้ง่ายที่สำคัญราคาถูกและมีอายุการเก็บรักษาที่นานอย่างต่ำ6เดือน ขนมปังกรอบโดยในขนมปังนั้นมีสารอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นหลักซึ่งเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องใช้ในทุกวัน ขนมปังกรอบนั้นสามารถหาซื้อได้ง่ายและเก็บได้นานระยะเวลาพอๆกับมาม่าเลยทีเดียว น้ำผึ้งมีระยะการเก็บรักษาที่นานมาก โดยในน้ำผึ้งนั้นมีน้ำตาลมีความหวานก็เป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการเช่นกัน ช็อคโกแลตเป็นขนมที่ให้พลังงานแคลลอรี่สูง

อาหารกระป๋อง โดยอาหารกระป๋องนั้นมีให้เลือกมากมายหลากหลายเมนูมาก ไม่ว่าจะเป็น ข้างโพด ผัก ปลากระป๋อง ผลไม้ ระยะการเก็บรักษาอย่างต่ำ 1-2 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถหาซื้อง่ายและเก็บรักษาง่ายด้วย ข้าวสาร เนื่องจากคนเรากินข้างและแป้งเป็นอาหารมื้อหลัก ก็จำเป็นมากที่จะต้องมีไว้กินในยามจำเป็นและสามารเก็บได้นาน ถัวอบ ซึ่งถั่วนั้นเป็นอาหารที่มีสารอาหารทางโภชนาการสูง และมีโปรตีนสูง

เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายยามวิกฤตอย่างมากและสามารถเก็บได้นาน หมูยอง สามารถหาซื้อได้ง่ายและรับประทานง่ายเก็บรักษาได้นานและรสชาติอร่อย กินได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก น้ำหวาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ น้ำอัดลม กาแฟ หรือนมผง ก็สามารถเก็บไว้ในยามที่เราเกิดวิกฤตได้ สามารถเก็บรักษาได้นาน

นอกจากอาหารที่ควรมีในวิกฤตแล้ว สิ่งที่สำคัญที่ควรมีอีกหนึ่งอย่างก็คือกระดาทิชชู่ สามารถนำไปเช็ดนำไปซับหรือแม้กระทั่งสามารถนำมาทำความสะอาดร่างกายได้อย่างง่าย เป็นสิ่งสำคัญที่ควรมีเก็บไว้หากเกิดวิกฤต การนำเสนอสิ่งต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางและความรู้ในการเตรียมตัวเพื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตต่างๆ ดังนั้นอย่าตกใจและกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมากเกินไปจนมีการกักตุนสินค้าที่มากเกินไปและทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  betbb

เทคนิดการอดอาหารไม่ต่อเนื่อง

สำหรับคนที่เริ่มต้นในการทำif หลายๆคนก็ไปหามาจากหลายๆแหล่งแล้วก็เกิดความสับสนวันนี้ขออนุญาตเปิดเผยหลักการเบื้องต้นเลยง่ายๆแล้วทุกคนจะสามารถนำเอาไปปรับใช้ทำได้เอง คือ 

ข้อที่1การทำlntermittentเราจะมีคำศัพท์อยู่สองศัพท์ก็คือ if  คือการอดอาหารแต่ว่าในการอดอาหารเรายังมีช่วงที่เรานั้นรับประทานนั้นในข้อแรกเราก็จะมาพูดถึงความถี่ของการทาน IF ในคนที่เริ่มทำ  IFจะต้องพิจารณาก่อนว่าคุณสะดวกใจที่จะทำ IFถี่มากแค่ไหนในบางคนสายแข็งบอกว่าฉันสามารถทำมันได้ทุกวันและมันจะเป็นการทำ IFแบบเต็มรูปแบบ7วันต่อสัปดาห์แล้วก็ทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพวกเราทุกคนตั้งแต่เกิดวันแรกลืมตาดูโลกเราก็ยัง IFอยู่แล้วเพราะในเวลาที่เราหลับเราก็ไม่ได้รับประทานอะไรเพียงแต่ว่าเราไม่ได้ทำ IFไม่ได้นานพอที่จะทำให้มันส่งผลต่อสุขภาพเท่านั้นเองเรานอนหลับทุกวันเราก็ IFอยู่แล้วเพียงแต่ว่าในช่วงเวลา IFเราจะอยู่ที่ประมาณ6-10ชม.ถึง12ชม.

ดังนั้นในความถี่ที่มีความสำคัญก็คือว่าในบางคนที่เป็นวิธีการนิยมมากก็คือเรียกว่าทำ IFวันเว้นวัน คือการรับประทานปกติหนึ่งวันเช่นจันทร์พุธ ศุกร์ แล้วก็ อังคาร พฤหัส เสาร์ ทำแบบเข้าโปรแกม IFอันนี้เขาเรียกว่า Alternate dag fasting ก็คือทำวันเว้นวันถ้าหากหลายๆคนบอกว่าวันเว้นวันนี่มันถี่เกินไปไม่สะดวกใจคุณลองทำวันเว้น2วัน

ซึ่งในวิธีการแบบนี้เขาเรียกว่า5ต่อ2 ก็คือรับประทานปกติ5วันแล้วก็ทำด้วยกระบวนการ Alternate dag fasting2วันการทำ5ต่อ2ก็ได้เป็นที่นิยมเหมือนกัน

เนื่องจากว่ามันทำได้ง่ายแล้วมันก็ไม่ได้ทำทุกวันบางทีทำเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ที่เราอยู่บ้านมันก็สะดวกใจอยู่เหมือนกันหรือบางคนบอกว่า5ต่อ2ก็ถี่เกินไปก็สะดวกเมื่อไรก็ทำเมื่อนั้นอันนี้ก็สามารถทำได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ประสิทธิภาพที่จะได้จากการทำ IF ก็ลดน้อยถกถอยกันไปตามความถี่ที่คุณนั้นได้ทำ

ข้อที่2ในเรื่องของความนานในการทำ ฟาสติ้ง โดยปกติแล้วในวันที่คุณนั้นทำฟาสติ้งความนานมันก็แล้วแต่ถ้าเปรียบเทียบเป็นนาฬิกาชีวิตอย่างคนไทยเรามักจะทานแต่2โมงเช้าแล้วจะทานอีกทีก็6โมง หรือ2ทุ่มตีไปเลยว่ากิน12อดอาหารประมาณนั้น

ดังนั้นการที่จะทำ IFแล้วจะหวังผลในเรื่องของโรคหัวใจและหลอดเลือดเบาหวานน้ำหนักความดันก็จะต้องทำในระยะเวลาอดอาหารที่ยาวกว่านั้น

นักวิจัยในเปเปอร์นี้น่าสนใจเพราะว่าอันนี้มันเป็นการสรุปรวมประโยชน์ที่เกิดขึ้นของการทำ IFแล้วเขาได้แนะนำว่าการทำ IFที่ดีควรจะทำ IFคือการอดอาหารในช่วงเวลาเดียวกันกับที่คุณกำลังจะพักผ่อนแล้วก็กินในช่วงเวลาเดียวกับที่คนทั่วไปเขาได้ทานกัน

 

สนับสนุนโดย  รวมเว็บหวยออนไลน์

วิธีการแก้ปัญญาเรื่องผมร่วง 

เมื่อเรานั้นต้องกับปัญญาหาเรื่องของผมนั้นก็จะทำให้หลายๆคนนั้นเกิดการคิดว่าเป็นธรรมดาสำหรับบางคนแต่ว่าในบางคนนั้นไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งเพราะว่าจะทำให้ผมของเรานั้นหัวล้านอย่างมากเมื่อถึงเวลาที่เรานั้นร่วงมากก็จะทำให้เรานั้นหัวล้านได้แบบไม่รู้ตัวเลยก่อนที่เรานั้นจะร่วงหนักไปมากกว่านี้ 

  • ควรที่จะเปลี่ยนยาสระผม เพราะว่าบางคนนั้นใช้ยาผมแบบว่าเปลี่ยนนั้นบ่อยเกินไปดังนั้นเราก็ควรที่จะเลือกยาสระผมที่ช่วยในเรื่องของการผมนั้นร่วงส่วนการที่เรานั้นนวดผมนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งในการที่ทำให้ผมเรานั้นร่วงทางที่ดีที่สุดนั้นเราก็ควรที่จะเลือกยาสระผมที่ดีเลือกเกี่ยวกับการบำรุงเส้นผมมาให้หลุดร่วง
  • ไม่ควรที่จะทำสีของผมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดัดผมหรือว่าย้อมผมกัดสีผมนั้นเพราะว่าสารเคมีนั้นจะเข้าไปทำลายเส้นผมของเรานั้นขาดละอ่อนแออย่างมากดังนั้นถ้าใครนั้นอยากจะทำเมื่อถึงเวลาที่เรานั้นต้องเติมสีของผมนั้นก็ควรที่จะเว้นไว้ประมาณอย่างน้อยหกเดือน
  • ควรที่จะเกิดวิตามินเสริมนอกจากที่เรานั้นบำรุงเส้นผมที่ภายนอกนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นการนวด หมัก หรือว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ นี่ยังไม่พอเพราะว่าผมของเรานั้นก็ต้องการบำรุงมากนั้นอย่างการกินอาหารก็เหมือนกัน หรือว่าเราต้องการที่จะอาหารเสริมแบบว่ากินเป็นวิตามินนั้นดีดีเหมือนกัน 
  • การที่เรานั้นทำสีผม อันนี้เป็นเรื่องที่เราคิดว่าทุกคนนั้นต้องรู้ดีอยู่แล้วว่าการที่เรานั้นทำสีผมนั้นทำให้ผมของเรานั้นเสียมาก   แห้ง  ขาด  หลุดร่วง   หยาบกระด้างด้วย ดังนั้นเราก็ควรที่จะเลือกที่จะหลีกเลี่ยงในการที่เราต้องทำสีผม หรือว่าเรานั้นจะเลือกการทำสี  ไม่ว่าจะเป็นยืดหรือว่าอะไรก็ตาม  ดังนั้นเราก็ควรที่ปล่อยทิ้งเอาไว้อย่างน้อยๆนั้น หกเดือนเพื่อที่จะให้รากของผมนั้นได้พักผ่อนบ้าง
  • การใส่เน็ตคุมผมเวลาที่เรานั้นนอน  ในขณะที่เรานั้นต้องหาวิธีในการที่เรานั้นต้องรับมือเรื่องของผมร่วงนั้นใหเราเอาเน็ตที่คุมผมนั้นมาสวมใส่เพื่อที่จะไม่ให้ผมของเรานั้นหลุดร่วงออกมาแถมยังไม่ต้องนอนทับผมและผมที่เรานั้นร่วงจะไม่ปลิวกระจายไปทั่วห้องนอนนั้นอีกด้วย เป็นช่วงที่เรานั้นกำลังคิดหาวิธีอื่นอยู่แต่ข้อดีก็คือผมของเราจะไม่หลุดร่วงเต็มพื้นห้องด้วยเศษของผมนั้นอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่าออนไลน์

เกล็ดความรู้การดูแลสุขภาพกายและใจ

ทุกๆคนเคยได้ยินกับใช่มั้ยกับประโยคที่บอกว่าความไม่มีโรคนั้นอันเป็นลาภอันประเสริฐมันเป็นความกล่าวได้หมดในทุกๆยุคทุกสมัยและมันก็ได้เป็นความจริงที่ยากจะปฏิเสธต่อให้เราได้มีเงินทองมากมายมหาศาลแค่ไหนแต่ถ้าสุขภาพของเราไม่ดีเจ็บออดๆแอดๆชีวิตของเรามันก็ยากที่จะมีความสุขได้

ถ้าหากเราจะต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยมากกว่าการไปเที่ยวพักผ่อนและเราก็ได้มี5วิธีการดูแลสุขภาพกายและใจมาฝากทุกคนกัน

เรามาดูกันเลยว่า5วิธีมันจะมีอะไรบ้าง

วิธีแรกต้อง รับประทานอาหารให้ครบ5หมู่และควรจะต้องรับประทานให้ตรงเวลาในทุกๆมื้อและพยายามกินให้ครบ5หมู่อย่างเพียงพอตามความต้องการของร่างกายและควรจะรับประทานให้ตรงต่อเวลาให้เป็นประจำ

โดยมื้อเช้านั้นได้เป็นมื้อที่ถือว่ามีความสำคัญมากที่สุดจนไม่ควรที่จะอดอาหารและส่วนมื้อเย็นควรรับประทานแต่น้อยและไม่เกินหลัง6โมงเย็นเพราะถ้าหากว่ารับประทานดึกก่อนไปอาจจะทำให้เวลานอนมันอาจจะทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่

วิธีที่สอง ดื่มน้ำให้เพียงพอ คุณควรพยายามดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ8แก้วเพราะการดื่มน้ำอย่างเพียงพอมันก็ะมีประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายอย่างมากมายทำให้เรื่องของสุขภาพและความงามไม่ว่าจะช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตเป็นไปอย่างปกติช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นดูสดใส

วิธีที่สาม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอคุณควรจะหาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อยให้ได้สัปดาห์ละ3-4ครั้ง ครั้งละประมาณ30นาที

นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยให้คลายแล้วยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อนั้นแข็งแรงช่วยให้ปลอดและหัวใจทำงานได้ดีอีกทั้งยังช่วยสลายไขมันและจะช่วยลดความอ้วนให้กับคุณได้อีกด้วย

วิธีที่สี่ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอนหลับให้ได้วันละ6-8ชั่วโมงการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอไม่เพียงแต่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมได้อย่างเต็มที่เท่านั้นแต่ยังทำให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นแจ๋มใสมีพลังในการดำเนินชีวิต

วิธีที่ห้า หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เป็นที่รู้กันว่าการสูบบุหรี่และการดื่มเหล้านั้นเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งตับมะเร็งปลออดการหลีกเลี่ยงหรือพยายามที่จะลดละเลิกพฤติกรรมที่จะส่งผลเสียให้กับสุขภาพของเหล่านี้

จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้เราได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นเพราะถ้าหากว่าคุณนั้นไม่ได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายก็ย่อมเป็นการลดปัจจัยที่จะมาทำร้ายสุขภาพของเรานั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  rb88 pantip

ผิวสวยด้วยผักสด

สำหรับความสวยความงามก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องผิวกันอย่างแน่นอนกันใช่ไหมและในวันนี้เราก็จะมาบอกเคล็ดลับเรื่องของผิวสวยด้วยผักและผลไม้มาฝากกันจ้า

ซึ่งเราก็จะมาพุดถึงเรื่องอาหารที่เกี่ยวข้องกับผัดและผลไม้ที่รับประทานไปแล้วจะทำให้ผิวสวยกลุ่มแรกนี้จะเป้นพวกผลและก็ผลไม้ที่ได้มีสีเหลืองหรือสีส้มกลุ่มนี้จะได้แก่พวกแครอทพวกฝักทองพวกมะละกอ

สำหรับมะละกอนี้ถ้าจะรับประทานส้มตำจะยังไม่ได้มะละกอนั้นจะต้องเป็นพวกมะละกอสุขเท่านั้นคือเราจะต้องรอให้พวกเขาเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองหรือว่าสีส้มก่อน

ซึ่งสารสีเหลืองหรือว่าสารสีส้มที่มันได้มีประโยชน์นี้ในการแพทย์เขาจะเรียกกันว่าสารตัวนี้ว่าสารแคโรทีนและสารแคโรทีนนั้นได้เป็นสารที่คอยต้านอนุมูลอิสระและพวกนี้นั้นมันจะคอยช่วยทำให้ผิวของเรานั้นดูสวยสดใสถ้าจะให้สังเกตเพื่อนบางคนที่ได้รับประทานผักพวกผลไม้ในกลุ่มนี้เยอะมากจนเกินไปบางทีเราจะเห็นได้เลยว่าตัวของพวกเขานั้นตัวจะมีสีออกสีเหลืองผักพวกนี้ถ้าได้รับประทานมากจนเกินไปบางทีสารตัวนี้บอกเลยว่าไม่ได้มีความอันตรายแต่จะดูเหมือนคนเป็นดีซ่าน

เพราะฉะนั้นเราได้มีทริปง่ายๆก็คือจะดูว่าเรานั้นได้รับประทานเข้าไปมากเกินไปหรือเปล่าก็อาจจะรองพลิกฝ่ามือของเราออกมาดูถ้าหากว่าเรานั้นได้มีฝ่ามือที่เหลืองเกินไปพวกนี้ก็แค่ลดปริมาณในการรับประทานลงมานิดหน่อยส่วนผักผลไม้อีกกลุ่มหนึ่งจำง่ายๆเลยเป้นพวกกลุ่มที่มีสีแดงอย่างเช่นพวกมะเขือเทศในมะเขือเทศจะมีสารสำคัญตัวหนึ่งที่ชื่อว่าไลโคปีน

นอกจากนี้แล้วไลโคปีนได้เป็นสารที่สำคัญที่พบได้ในมะเขือเทศจัดได้เป็นสามกลุ่มในแคโรทีนอยด์และไลโคปีนก็ได้เป็นสารประกอบที่ได้มีการับความสนใจ

เนื่องจากได้มีรายงานว่ามีได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยเฉพาะในการลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างๆและที่ชัดเจนมาที่สุดก็คือมะเร็งต่อมลูกหมากรองลงมาคือมะเร็งปอดและการรับประทานมะเขือเทศอย่างไรให้ได้ไลโคปีนสูงมะเขืเทศสด 0.88-4.20หรือเทียบเท่ากับมะเขือเทศสีดา5ลูกมะเขือเทศปรุงสุก3.70หรือเทียบเท่ามะเขือเทศผลกลาง1ลูกซอสมะเขือเทศ6.20หรือเท่ากับ10ช้อนโต๊ะซุปมะเขือเทศเข้มข้น7.99หรือเท่ากับ15ช้อนโต๊ะซอสมะเขือเทศ9.90-13.44หรือเท่ากับ12-15ช้อนโต๊ะมะเขือเทศผง112.63-126.49หรือเท่ากับ10-12ช้อนโต๊ะผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น5.40-150หรือเท่ากับ10-12ช้อนโต๊ะน้ำมะเขือเทศ5.00-11.60เป็นยังไงกันบ้างของสดดีกว่าของที่ปรุงแล้วอาจจะไม่ได้เป็นจริงเสมอไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  รหัสคูปอง rb88

นอนอย่างไรให้ได้สุขภาพดีและมีอายุยืน

สำหรับเรื่องของการนอนนั้นหลายคนยังไม่รู้ว่าการนอนนั้นมันมีความสำคัญต่อสุขภาพของเราอย่างไรซึ่งในการนอนนั้นเราทุกคนก็ต้องหลับกันใช่ไหมเพราะว่าในการหลับช่วงกลางคืนนั้นคนเราก็จะได้รับการซ่อมแซมเขาเรียกกันว่าโกรทฮอร์โมน

ซึ่งตัวนี้ในช่วงกลางคืนในช่วงเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งครึ่งตัวโกรทฮอร์โมนก็จะออกมาช่วยการซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอของร่างกายในร่างกายเด็กก็จะช่วยให้ในการเจริญเติบโตจะทำให้เด็กนั้นสูงขึ้นแต่เมื่อไรที่คนเรามีอายุเกิน20-30ไปแล้วพวกโกรทเพลทของกระดูกทำให้ไม่เจริญเติบโต

ดังนั้นก็จะมีการซ่อมแซมในส่วนที่ได้มีการสึกหรอในร่างกายพอคนเรานั้นได้มีอายุมากขึ้นเพราะฉะนั้นแล้วถ้าคนเรานอนไม่มีประสิทธิภาพมันจะทำให้โกรทฮอร์โมนจะออกมาน้อยลดลงมันจะทำให้การซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอได้น้อยลงและจะเป็นผลที่ไม่ดีเพราะเราก็จะมีอายุที่มากยิ่งขึ้นและจะดูแก่เกินกว่าวัยเท่านั้นเอง

นอกจากนี้แล้วเราจะนอนในช่วงเวลาไหนและวิธีการนอนแบบไหนที่ควรจะมีคุณภาพที่ดีก่อนอื่นเลยเราจะต้องเข้าสู่ในสภาวะที่ตัวของเรานั้นหลับสนิทในช่วงเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งครึ่งดังนั้นเราทุกคนเองก็ควรรู้กันอยู่แล้วว่าเราควรจะหลับตอนไหนหรือตั้งแต่4ทุ่มหรือไม่เกิน5ทุ่มนี่ก็คือในการนอนหลับที่ถูกต้องและเราควรจะนอนหลับทุกๆวันให้มันตรงเวลาเดิมร่างกายของคนเรามีนาฬิกาชีวิตถ้าเราหลับไม่ตรงเวลาเดิมนาฬิกาชีวิตมันก็จะผันผวนไปฮอร์โมนต่างมันก็จะทำงานได้ผันผวน

สำหรับใครที่ชอบนอนเวลาตี1ตี2เขายังจะได้รับโกรทฮอร์โมนอยู่หรือไม่คือรับไม่ได้แล้วคือโกรทฮอร์โมนนั้นในร่างกายของคนเราจะออกมาซ่อมแซมในช่วงเที่ยวคืนถึงตี1ครึ่งเหมือนกันทุกๆคนมันเป็นสัญญาณของร่างกายเราเองที่มันจะหลั่งออกมาในช่วงนี้และมันก็จะหลั่งในช่วงแรกของการนอนการนอนของคนเราจะมีทั้งหลับตื้นและก็หลับลึกตอนหลับตื้นก็อาจจะเป็นในช่วงเวลาแรกๆพอหลับลึกก็จะเป็นในช่วงชั่วโมงหลังๆและทุกคนที่เริ่มฝันและจะจำความไม่ได้ก็คือการนอนหลับลึกโกรทฮอร์โมนก็จะหลั่งออกมาในช่วงหลับลึกแล้วก็จะหลั่งออกมาในช่วงการนอนแรกๆของต้นหัวนอนนอนแล้วมันก็จะหลั่ง

หลังจากที่เรานั้นได้นอนหลับสนิทโกรทฮอร์โมนมันก็จะหลั่งในช่วงแรกของการนอนหลับพอหลับไปสักพักหนึ่งในสองสามชั่วโมงถัดไปอาจจะไม่มีการหลั่งโกรทฮอร์โมนเกิดขึ้นแล้ว

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88 mobile

นอนน้อยเสี่ยงอ้วน  – ลงพุง 

การนอนหลับผักผ่อนที่เพียงพอนั้นเป็นการที่เรานั้นต้องทำให้เป็นนิสัยที่ช่วยให้เรานั้นมีสุขภาพที่ดีซึ่งไม่ใช่เพียงเท่านั้นเพราะว่าการที่เรานั้นพักผ่อนให้เพียงพอนั้นยังทำให้เรานั้นรู้สึกว่าเรานั้นตื่นนอนออกมาแล้วเรานั้นอารมณ์ดีเมื่อที่เราจะทำอะไรนั้นก็ร่าเริงไม่ว่าเรานั้นจะเจอสถานการณ์แบบไหนนั้นเราก็รับมือได้ในเรื่องของงานและเรานั้นจะทำงานได้อย่างเต็มที่

แต่ว่าถ้าเมื่อใดที่เรานั้นนอนมพอขึ้นมาจะส่งผงเสียอะไรกับตัวเรานั้นบ้างแน่นอนละว่าเรานั้นต้องง่วง  อ่อนเพลีย  ในระหว่างที่เรานั้นต้องทำงานหรือว่าระหว่างวัน แต่ว่าการที่เรานั้นนอนน้อยหรือว่านอนไม่พอ อาจเป็นที่มาที่ทำให้ น้ำหนักของเรานั้นพุ่งขึ้น ก็เป็นได้

การที่เรานอนมีผลกับน้ำหนักอย่างไร 

จากการที่เขานั้นได้วิจัยค้นพบว่าความแตกต่างระหว่างในขณะที่เรานั้นกำลังนอนอยู่นั้นหรือว่าจะเป็นการที่เรานั้นตื่นนอนขึ้นมานั้นในตอนเช้า เรานั้นจะพบได้ว่าเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงของระดับกระบวนการของเอ็นเอเมทิลเลชั่น ของยีน ที่เกี่ยวกับการที่เรานั้นอ้วนและโรคเบาหวาน เช่นเซลล์ไขมันที่ทำหน้าที่ดูดซับกรดไขมันหมุนเวียนภายใน ร่างกาย ซึ่งถ้าเรานั้นมีการที่เรานั้นต้องเปลี่ยนแปลงจึงแสดงให้เห็นว่าเนื้อเยื่อ  ระดับฮอร์โมน และเมตาบอลิซึม   หรือว่าระบบเผาผลาญเช่นกัน  ดังนั้นถ้าเรานั้นนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอนั้นจะทำให้ระบบต่างนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง จึงทำให้เรานมีอาการของโรคอ้วนหรือว่าน้ำหนักนั้นเพิ่มขึ้น 

การที่เรานั้นนอนน้อยทำให้น้ำหนักเรานั้นพุ่ง

มีนักโภชนาการนั้นได้ปรึกษาความเสี่ยงด้านสุขภาพนั้นได้กล่าวไว้ว่ามีการทำวิจัยไว้ว่าการที่เรานั้นได้มีการวิจัยว่าการที่คนเรานั้นนอนหลับครบ 10 ชั่วโมง ต่อคืนการที่เรานั้นนอนไม่พอเป็นความที่เรานั้นเพิ่มความอยากอาหารโดยเฉพาะเรื่องความหิวเพราะว่าการที่เรานั้นนอนไม่หลับนั้นจะส่งผลต่อประสาทว่าเรานั้นนั้นหิว จึงทำให้เรานั้นเกิดอาการอยากอาหาร และผลการวิจัยนั้นยังได้บอกอีกว่าในทุกๆการที่เรานั้นหลับนอนซึ่งจะมีผลต่อระดับฮอร์โมนที่ควบคุมความหิว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกสร้างขึ้นมาในระบบทางเดินอาหาร

ในขณะที่อยู่ในเซลล์ไขมันทำการส่งสัญญาณไปยังสมองว่าเวลานี้คุณนั้นอิ่มแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณนั้นนอนหลับไม่เพียงพอร่างกายก็จะลดระดับของฮอร์โมนเลปตินลง นั่นก็หมายความว่าฮอร์โมนเกรลินกระตุ้นให้เรานั้นหิวแต่เมื่อใดที่เรานั้นนอนหลับไม่เพียงพอนั้นระบบเผาผลาญกลับอ่อนแรงจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราได้เห็นว่าการที่เรานั้นนอนไม่เพียงพอจะทำให้น้ำหนักของเรานั้นเพิ่มขึ้นได้เหมือนกัน 

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    dewabet

การนอนกัดฟัน เป็นอันตรายที่คุณควรรู้

การนอนกัดฟันนั้นถือได้ว่าเป็นความผิดปกติชนิดหนึ่งเลยนะ ซึ่งมันจะเป็นการบดหรือขบกันระหว่างฟันบนและฟันล่าง ในระหว่างที่คุณทำการนอนหลับ ซึ่งผู้ที่มีอาการนอนกัดฟันนี้ส่วนใหญ่มักจะมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาการที่เกิดขึ้นในขณะที่คุณหลับอยู่นั้น เป็นช่วงเวลาที่คุณนั้นหลับสนิทอยู่ อาการก็จะคล้ายๆกับคนที่ชอบนอนกรนนั้นแหละ

ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่สามารถรู้ตัวได้เลยว่าคุณนอนกัดฟันหรือนอนกรน เพราะมันจะเป็นในช่วงที่คุณหลับสนิทดังนั้นถ้าหากไม่มีบุคคลอื่นอยู่ด้วยในขณะนั้นก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้เลย แต่สำหรับบางคนที่มีครอบครัวแล้วการนอนกัดฟันหรือนอนกรนนั้นก็มักเป็นปัญหาใหญ่ในการอยู่ด้วยกัน และนอกจากนั้นปัญหาในการนอนกัดฟันยังมีอีกหลายประเด็น โดยมีดังต่อไปนี้

นอนกัดฟันอาจจะพบปัญหาอะไรบ้าง

ปัญหาที่คุณจะได้รับถ้าหากคุณนอนกัดฟันนั้น โดยการกัดฟันบ่อยๆหรือมีความรุนแรงเป็นเวลานานๆ จะส่งผลให้ฟันของคุณสึก กร่อน ลงได้ง่ายๆ นอกจากนั้นยังก่อให้เกิดฟันที่บางลง และสั้นลง โดยคอฟันนั้นมีการสึกเป็นร่องได้ เมื่อมีการปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลให้เกิดอาการเสียวฟัน และจะสึกลงเรื่อยๆ

การที่ฟันของคุณสึกกร่อนลงเรื่อยๆ มันก็จะไปทำลายรูปหน้าของคุณได้ เพราะถ้าฟันสั้นลง ก็จะก่อให้เกิดรูปหน้าของคุณเปลี่ยนไปโยจะสั้นลงตามลักษณะของฟันได้ และส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยตรวขากรรไกร หรือใบหน้าได้อีกด้วยนะ

ผลเสียยังไม่หมด การที่ปล่อยไว้เรื่อยๆ จะเป็นการทำให้ฟันของคุณบิ่นหรือแตกหักได้ หรือไม่ก็สึกไปเรื่อยๆจนถึงโพรงประสาทก็ได้เช่นกัน ดังนั้นมันจะมีผลต่อระบบเคี้ยวอาหาร และอาการปวดนั้นก็อาจจะทำให้คุณนอนหลับไม่ได้เลยแหละ

เราจะทราบได้อย่างไรว่าเรานอนกัดฟัน

การนอนกัดฟันนั้นไม่สามารถที่จะรู้ด้วยตนเองได้หรอก เพราะมันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คุณนั้นหลับ ก็เหมือนกันคนนอนกรนนั่นแหละ หากมีความรู้สึกหรือไม่ได้หลับ อาการเหล่านั้นก็ไม่เกิดขึ้น และในการวิฉัยก็ยากเช่นกัน โดยการตรวจเพื่อวิฉัยที่ดีที่สุดนั้นก็คือการทำการตรวจ การนอน (Sleep Test) ซึ่งสามารถที่จะทำได้ทั้งที่บ้านหรือโรงพยาบาลก็ได้เช่นกัน

การทำเช่นนี้ก็เพื่อเป็นการวัดการทำงานของกล้ามเนื้อในการบดเคี้ยวขนาดที่เรานอนหลับนั่นเอง และก็ยังสามารถเช็คได้อีกหลายวิธีด้วยกัน แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสะดวกทำแบบไหน ซ฿งททางแพทย์จะแนะนำและปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อให้เข้ากับผู้ป่วยนั่นเอง

 

 

สนับสนุนโดย  rb88 คาสิโน