ทําไมโดนัทถึงมีรู

ทําไมโดนัทถึงมีรู ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องใกล้ตัวที่ใครหลายคน  อาจจะไม่เคยได้รับรู้มาก่อนเป็นเรื่องราว ที่เกี่ยวข้องกับขนมหวาน ที่หลายคนต่างก็รู้จักกันดี อย่างโดนัท แน่นอนจากข้อมูลที่มีการบันทึกไว้ ในอดีตช่วงยุคแรกเริ่มนั้นไม่ได้มีรู

แต่ทําไมโดนัทถึงมีรูในยุคปัจจุบันนี้  หลายคนก็ต้องสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวนี้เช่นเดียวกัน

แต่ทว่าสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป  เพราะว่าเราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่มีชื่อว่า ทําไมโดนัทถึงมีรู

สิ่งที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้  เป็นคำถามที่ใครหลายๆคนก็เคยตั้งคำถามขึ้นมาว่าทําไมโดนัทถึงมีรู้  แล้วทำไมเราไม่สร้างโดนัทที่ไม่มีรูขึ้นมา  ในวันนี้เรามีคำตอบว่าจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

  แน่นอนในปัจจุบันมีคำถามอีกมากมายที่ต่างก็สงสัย แต่ไม่เคยได้รับคำตอบเลย  แต่วันนี้เราจะมาพูดแค่เรื่อง ทําไมโดนัทถึงมีรู ไปก่อนแต่สุดท้ายก็อยากให้ทุกคนได้ลองศึกษาค้นคว้าดูเหมือนว่า  คุณกำลังสงสัยอะไรอยู่

 

คุณอย่ามัวอยู่กับที่ต้องออกไปเปิดโลกกว้าง  เริ่มศึกษาสิ่งใหม่ๆหลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมโดนัทต้องมีรู ซึ่งเดิมทีโดนัทเป็นขนมพื้นเมือง ของชาวเนเธอร์แลนด์  แบบดั้งเดิม คือ แป้งทอดที่ไม่มีรู  จากนั้นในช่วงต้นของศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา

โดนัทได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ แต่เป็นการเดินทางขนส่งทางการเดินเรือ  แต่ทว่าจากบันทึกก็ยังยืนยันว่า โดนัทก็ยังไม่มีรูอยู่ดีจนกระทั่งในช่วงต้นศตวรรษที่ 19  เมื่อกัปตันเดินเรือ ชาวอเมริกาได้ช่วยแม่ของตัวเองทอดโดนัท โดยในช่วงเวลานั้น  เขาคิดว่าโดนัทแบบดั้งเดิมมันถอดยาก และพบว่าตรงกลางน้ำมันและไม่ค่อยสุก เขาจึงได้ทำการเจาะรู

โดยหวังว่าจะทำให้มันถอดง่ายขึ้น ซึ่งก็เป็นจริงดังนั้น หลังจากนั้นในเวลาต่อมา โดนัทที่มีรู  ก็ได้แพร่หลายไปทุกหัวเมือง ซึ่งในภายหลังกัปตันชาวอเมริกาผู้นี้ ได้รับการขนานนามว่า เป็นผู้คิดค้นโดนัทสมัยใหม่ อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีเรื่องราวอีกมากมาย  ที่มีความน่าสนใจที่จะขึ้นมาทั่วทุกมุมโลกของเราแน่นอน

ว่ายังมีคำถามที่คุณเองก็ตั้งคำถาม และก็ยังไม่เคยได้ลองไปศึกษาดูอย่างที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น ว่าจะหาคนสงสัยอะไรก็ให้เราออกไปเปิดโลกกว้าง  ศึกษาถึงสิ่งใหม่ๆถ้าหากคุณมัวแต่ย่ำอยู่กับที่ไม่ออกไปเปิดโลกกว้างสักที  คุณก็จะไม่มีทางได้รับรู้ในคำถามที่คุณอยากจะรู้เลย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    aesexy

เมาแค่ไหนถึงเสี่ยงตาย

เมาแค่ไหนถึงเสี่ยงตาย  สิ่งที่เราจะนำเสนอให้ทุกคนได้รับรู้มันเป็นหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์และการเมาเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่หลายคนอาจยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อน ใครเป็นสายดื่ม ก็ควรที่จะฟังเอาไว้เพราะว่ามันเป็นคำถามที่หลายคนก็สงสัย  แต่ยังไม่เคยได้รับคำตอบ  คำถามที่ว่า ก็คือเมาแค่ไหนถึงเสี่ยงตายในวันนี้เราจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยกัน 

สิ่งน่าสนใจที่ ที่ใครหลายคน อาจมองข้าม เพราะมันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง หรือ อาจเกี่ยวข้องแต่ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตแต่อย่างไร มันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความเมา ที่มาพร้อมกับการดื่มแอลกอฮอล์  คุณเคยเกิดคำถามนี้หรือเปล่าว่าเมาแค่ไหนถึงเสี่ยงตาย

ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเรื่องราวต่างๆกัน Alcohol intoxication คือ การเสียชีวิตจากการทะเลาะกัน  มีสาเหตุมาจากการดื่มสุรา  มีสาเหตุมาจากปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป  จนเข้าไปกดระบบประสาท  กดการหายใจทำให้หายใจติดขัด  หายใจไม่ออก  ขาดออกซิเจน จนนำไปสู่การสลบ  และถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด 

ส่วนคำถามที่ว่า ต้องดื่มมากแค่ไหนถึงจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิต  แต่จากผลการศึกษาวิจัย จากหลายสถาบัน ก็ยังมีข้อสรุป ที่ไม่ตรงกัน ซึ่งจากข้อสรุป ที่เป็นจุดที่คล้ายกัน คือ  เนื่องจากร่างกายของมนุษย์แต่ละคนมันไม่เหมือนกันการดื่มแอลกอฮอล์ ของแต่ละกัน ที่จะแสดงอาการ จึงไม่เท่ากัน  แต่โดยทั่วไปแล้วความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นมาโดยมีแอลกอฮอล์ในเลือด 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป

  เพราะมันจะทำให้เกิดอาการขาดสติโดยสมบูรณ์และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ในที่สุด  แน่นอนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เกิดจากการเมา ซึ่งมันเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากนั่นเอง และเราทราบดีว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หลายคนชอบ มันมีผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก และหลายคนรู้ดีว่ามันมีผลเสีย แต่คนก็ยังชอบดื่ม

และแน่นอนว่า ถ้าหากว่าเราดื่มในปริมาณที่เหมาะสม มันก็ส่งผลดีต่อร่างกายของเราด้วยเช่นเดียวกัน แต่เราก็ไม่ควรที่จะดูมันมากเกินไป สุขภาพร่างกายของเราเป็นสิ่งที่เราควรจะให้ความสำคัญเป็นอันดับที่ 1  เพราะว่าร่างกายของเราหาก ระบบใดระบบหนึ่งได้รับความเสียหาย ได้รับผลกระทบจากการทำร้ายตัวเอง

ด้วยการดื่มหรือว่ากินสิ่งที่ไม่ดีเข้าไปในร่างกายของเรานั้น ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยแม้แต่น้อย  อย่างไรก็ตามถ้าคุณสนใจอยากที่จะเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวข้องกับอาการเมา เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของแอลกอฮอล์เพิ่มเติม แล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับในยุคปัจจุบันนี้ เราสามารถศึกษาค้นหาข้อมูลต่างๆได้อย่างง่ายดายภายในโลกของอินเทอร์เน็ต

 

 

สนับสนุนโดย.  aesexy

เกล็ดความรู้ในการ lntermittent Fasting ดีที่สุด

สำหรับเทคนิคนี้ที่เราจะมาบอกคุณมันง่ายมาก ไม่เสียตังค์สักบาทแถมยังประหยัดอีกด้วยนั่นคือ ไม่ทานอาหารว่างระหว่างมื้อ  lntermittent Fasting เราบอกเลยการรับประทานอาหารว่างมันเป็นสิ่งที่คนสุขภาพไม่ดีเขาทำกันมันไม่จำเป็นในวันนึงเราแนะนำว่าโดยปกติท่านไม่ควรทานเกิน3มื้อใน3มื้อนี้คือขีดจำกัดแล้วของคนสุขภาพดีถ้าท่านทานเกินนี้สุขภาพเริ่มแย่

เพราะว่าทานมื้ออาหารมากเท่าไหร่ร่างกายโดนกระตุ้นอินซูลินมากเท่านั้นอินซูลินโดยกระตุ้นมากเท่าไหร่ร่างกายจะดื้ออินซูลินมากเท่านั้นร่างการดื้ออินซูลินมากเท่าไหร่ท่านก็จะอ้วนมากเท่านั้นเบาหวานถามหามากเท่านั้นไขมันความดันโรคไตวายเรื้อรังโรคหลอดเลือดต้องฟอกไตเยอะแยะไปหมด

เพราะฉะนั้นแล้วอย่ารับประทานอาหารบ่อยๆวันนึงไม่ควรเกิน3มื้อและถ้าให้เราแนะนำเราขอแนะนำ2มื้อมื้อเช้ารวบกับมื้อเที่ยงเรียกว่าบลั้นซ์แล้วก็มื้อเย็นอีกมื้อหนึ่งแฮปปี้มากๆเลยไม่ทานอาหารว่างระหว่างมื้อถ้าท่านทานระหว่างมื้อแปลว่าท่านทานมื้อใดมื้อหนึ่งนั้นน้อยเกินไปหรือ

เมื่อท่านทานน้ำตาลหรือแป้งมากเกินไป เมือ่ไหร่ก็ตามที่ทานน้ำตาลกับแป้งมากเกินไปร่างกายจะหิวบ่อยเพราะขาดสารอาหารที่ดีมีแต่น้ำตาลร่างกายมันไม่อิ่มร่างกายมันอยากกินบ่อยๆเพราะฉะนั้นแล้วไม่มีอาหารว่างระหว่างมื้อที่ดีในโลกอาหารว่างเมือ่ไหร่ไม่ดีต่อสุขภาพทันที

สำหรับเทคนิคถัดมาที่จะช่วยเร่งสปีด lntermittent Fasting ของคุณให้แบบจี๊ดสุดๆนั่นก็คือในระหว่างที่ท่านอยู่ในช่วงฟาสติ้งหรือช่วงที่ไม่ทานอาหารเราแนะนำให้คุณทาทนไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่ากาแฟดำชาเขียวร้อนหรือชาเขียวเย็นหรือที่ไม่มีน้ำตาลแอปเปิลไซเดอร์ไวเนกาผสมน้ำแล้วจิบหรือว่าน้ำต้มกระดูก

พวกนี้ท่านจิบได้ทั้งวันทานได้เรื่อยๆการทานไม่ว่าจะเป็นน้ำอะไรก็ตามที่ไม่มีแคลอรีแบบนี้จะทำให้ร่างกายของท่านมีการกระตุ้นระบบผาผลาญตลอดเวลาซึ่งจะทำให้ท่านไม่หิวและไม่หลุดไอเอฟด้วยเราขอแนะนำเลยแต่มีใจความสำคัญนิดนึงน้ำที่ 0 แคลอรี่จะจะต้อไม่ใช่น้ำอัดลมที่เขียนมาZeroทั้งหมด 

เพราะว่าพวกนี้มันมีสารทดแทนความหวานที่กระตุ้นอินซูลินไม่ว่าจะเป็นแอสปาร์แตมหรือว่าซูคราโลสซึ่งเราไม่แนะนำเลยเพราะฉะนั้นน้ำที่เราแนะนำก็ทานเท่าที่เราพูดน้ำเปล่าน้ำแร่ชากาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่สารทดแทนความหวานแอปเปิ้ลไซเดอรเวนิกาน้ำต้มกระดูกอย่างนี้โคเอมมากๆ

นอกจากนี้สิ่งที่เราจะแนะนำเลยก็คือการทานอาหารให้เป็นสเต็ปคือในช่วงเลาทานอาหารคนเราจะหิวไปกินเยอะแบบนี้ไม่ดีเพราะฉะนั้นพอเราเริ่มจะถึงเวลาออกฟาสติ้งให้เรากินน้ำไปก่อนประมาณ300-400cc เพื่อกระตุ้นบอกกระเพาะขยายนิดนึงและจะส่งสัญญาไปที่สมองพร้อมที่จะทานอาหาแล้วนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    aesexy