แนวทางรักษา “ภาวะความดันโลหิตสูง” ด้วยตัวเอง บางทีอาจไม่ต้องรับประทานยา

ความดันสูง ลดได้ ถ้าเราดูแลตนเองตามเทคนิคไม่กี่ข้อนี้

แนวทางรักษา “ภาวะความดันโลหิตสูง” โรคความดันเลือดสูงนับเป็นเยี่ยมในกรุ๊ปโรคไม่ติดต่อยาวนานที่สำคัญทางสาธารณสุขที่ควรจะได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าปัญหาใหญ่ของการควบคุมโรคความดันเลือดสูงในประเทศไทยเป็นการที่ผู้เจ็บป่วยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรค ทำให้ไม่สามารถที่จะได้รับการดูแลและรักษาแต่ว่าเนิ่นๆจนถึงก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมา ดังเช่น โรคเส้นโลหิตในสมองแตก ฯลฯ

ความดันโลหิตคืออะไร

ความดันโลหิต (blood pressure) มีต้นเหตุจากแรงที่หัวใจบีบตัวจนกระทั่งกำเนิดแรงกดดันที่ผลักต่อต้านด้านในเส้นเลือด ความดันเลือดมีปริมาณ 2 ค่า เสมอ ก็คือ ความดันซิสโตลิก (systolic blood pressure, SBP) หรือที่เราเรียกกันเคยปากว่า “ความดันตัวบน” คือค่าความดันสูงสุดตอนที่หัวใจบีบตัวที่ทำการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย ความดันไดแอสโตลิก (diastolic blood pressure, DBP) หรือที่เราเรียกกันเคยปากว่า “ความดันตัวล่าง” คือค่าความดันต่ำสุดขณะหัวใจคลายตัว

สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูงมากยิ่งกว่าจำนวนร้อยละ 90 จะไม่รู้มูลเหตุที่ชัดแจ้ง แต่ว่าพบว่ามีต้นสายปลายเหตุร่วมบางสิ่งบางอย่างที่บางทีอาจสนับสนุนให้กำเนิดภาวะความดันโลหิตสูง ดังเช่นว่า ต้นเหตุทางด้านกรรมพันธุ์รวมทั้งความประพฤติ และอื่นๆมากมาย แล้วก็ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงโดยประมาณจำนวนร้อยละ 10 จะเป็นความดันเลือดสูงจำพวกที่รู้มูลเหตุ ยกตัวอย่างเช่น ความดันเลือดสูงจากการใช้ยาคุมบางประเภท หรือการเกิดเนื้องอกของต่อมหมวกไต ฯลฯ

การป้องกันและควบคุมโรคความดันโลหิตสูงโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต

การดูแลและรักษาโรคความดันเลือดสูงด้วยการกินยาเพียงอย่างเดียว มิได้รักษาที่ที่มาของโรค โดยเหตุนั้นส่วนที่สำคัญมากก็คือการปกป้องคุ้มครองรวมทั้งควบคุมโรคความดันเลือดสูงจากการเปลี่ยนแปลงการกระทำชีวิต ซึ่งมีข้อเสนอดังนี้ปริมาณ ก็คือ

ลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน

ควรจะพากเพียรควบคุมให้มีค่าค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 18.5 – 22.9 กิโลกรัม/ตร.ม. และก็มีเส้นรอบเอวสำหรับเพศชายไม่เกิน 90 เซนติเมตร (36 นิ้ว) แล้วก็สำหรับหญิงไม่เกิน 80 เซนติเมตร (32 นิ้ว) หรือ ไม่เกินความสูงหารสอง ทั้งเพศชายรวมทั้งหญิง

ปรับรูปแบบของการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ

ควรจะชี้แนะให้กินอาหารให้ครบ 5 กลุ่มทุกมื้อ ซึ่งในแต่ละมื้อมีจำนวนของกินที่สมควรจำกัดปริมาณเกลือและโซเดียมในอาหาร ควรที่จะมีการจำกัดจำนวนการบริโภคโซเดียมไม่เกินวันละ 2 กรัม ซึ่งเท่ากันกับเกลือทะเลจำนวน 1 ช้อนชา (5 กรัม) หรือน้ำปลา 3-4 ช้อนชา รวมทั้งควรจะจำกัดจำนวนการใช้ผงชูรสด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    alpha88