3 เทคนิคง่ายๆ ควบคุมน้ำหนักให้ได้ผล

ควบคุมน้ำหนักให้ได้ผล เชื่อว่าหนุ่ม ๆ สาว ๆ ส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ หันมาเริ่มต้นออกกำลังกายกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะไม่ว่าใครก็ตาม คงอยากที่จะมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง รวมไปถึงการสร้างรูปร่างที่ดีให้แก่ตนเองอยู่เสมอ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราจะสร้างรูปร่างที่ดี

หรือสร้างหุ่นของเราให้สวยเพื่อเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีได้นั้น สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

แต่วิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็คือ การควบคุมอาหาร เพราะเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายคนมองว่าเห็นผลได้อย่างชัดเจน แถมยังเหมาะสมสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา

แต่ก็ยังอยากที่จะดูแลตนเองให้สวยขึ้นอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า หลาย ๆ คนนั้นหันมาควบคุมอาหาร แต่ก็มักที่จะทำผิดวิธี จนส่งผลให้การควบคุมอาหารนั้นไม่เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ คนไหนที่อยากเริ่มต้นหันมาดูแลตนเองด้วยการควบคุมปริมาณอาหารที่ทานอยู่เป็นประจำ วันนี้เราก็จะมาแนะนำเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถทานอาหาร

หรือควบคุมอาหาร เพื่อช่วยใหนการลดน้ำหนักได้ รับรองได้เลยว่าหากทำเป็นประจำจะยิ่งทำให้การลดน้ำหนัก หรือการสร้างรุปร่างเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ไปดูกันเลย 

1.การคุมรสชาติอาหาร

รู้หรือไม่ว่ารสชาติอาหารก็เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เราควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าอาหารที่รสชาติหวาน มัน หรือแม้แต่เค็ม ถือเป็นหนึ่งในรสชาติอาหารที่ส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก

ยิ่งถ้าเราทานเป็นประจำก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้ ฉะนั้น ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดี หรือลดน้ำหนักให้เห็นผลได้อย่างชัดเจนคือ การรู้จักกับรสชาติของอาหาร ควรทานรสชาติที่เหมาะสม และพอดี เพื่อไม่ให้ร่างกายของเราได้รัยผลกระทบ 

2.การอ่านฉลากให้มากขึ้น

หลายคนอาจจะปล่อยละเลยการอ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์ ซึ่งสิ่งสำคัญในการเลือกโภชนาการที่ดีคือการที่เราอ่านฉลากก่อนทำการสั่งซื้อ เพราะเราจะได้รู้จักกับสรรพคุณของอาหาร เพื่อที่เราจะสามารถควบคุมได้ เพราะถ้าหากเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์เราก็จะได้ลดปริมาณการทานลง แต่หากเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชนืก็จะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายของเรานั่นเอง 

3.ไม่ควรอดอาหาร

หลายคนมองว่าการอดอาหารเป็นรูปแบบของการลดน้ำหนักที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนมาก ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ทำร้ายสุขภาพร่างกาของตนเองทางอ้อม เพราะการที่เราอดอาหาร นอกจากจะทำให้ร่างกายของเราไม่มีแรง ขาดพลังงาน ทำให้การลดน้ำหนักไม่มีประสิทธิภาพแล้ว

ยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคขาดสารอาหารได้อีกด้วย ดังนั้น หากเรายากลดน้ำหนักก็ควรที่จะลดให้ถูกวิธี และที่สำคัญควรทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่เพียงพอ 

 

สนับสนุนข้อมูลโดย  huaydee

การเติบโตของเด็กๆจากผักผลไม้

ในปัจจุบันเด็กหรือแม้แต่กระทั่งผู้ใหญ่บางคนนั้นก็ไม่ได้รับประทานผักและผลไม้ การเติบโตของเด็กๆ เนื่องจากเรานั้นอาจจะไม่ได้ถูกปลูกฝังและโตมากับการรัลประทานผักผลไม้จากผู้ปกครองนั่นเองแต่สำหรับเด็กที่กระตือรือร้นหรือมีการใช้พลังงานตลอดวันนั้นมักจะหิวมากขึ้น

ดังนั้นอาจไม่ใช่ว่าลูกน้อยของเรานั้นไม่ต้องการกินผักและผลไม้ในทางกลับกันผักและผลไม้เพียงอย่างเดียวอาจไม่น่าพอใจและลูกๆนั้นอาจรู้สึกไม่อิ่มเมื่อรับประทานการหาวิธีสร้างสรรค์ในการประกอบอาหารสามารถช่วยได้และยังเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มและพัฒนาการของลูกๆด้อย่างดีด้วย

สำหรับเมนูที่จะช่วยในพัฒนาการเจริญเติบโคของเด็กๆได้นั้นก็จะต้องเน้นที่การรับประทานผักและผลไม้

แต้แต่ละมื้อในปริมาณที่มากๆ ไม่เพียงเท่านั้น อาจจะยังต้องใส่ใจในเรื่องของอาหารประเภทโปรตีนอื่นๆอีกด้วย อาหารจำพวกฟักทองบดและผสมกับพริกไทยก็จะช่วยเพิ่มไฟเบอร์เบต้าแคโรทีน ลูทีนและซีแซนทีนฝห้กับเด็กๆด้วย

ทำเนื้อไก่งวง (ดูสูตรด้านล่าง) เพิ่มหัวหอมบดซึ่งมีซัลไฟด์สูงและสามารถช่วยต่อสู้กับแบคทีเรีย และเพิ่มเห็ดที่อุดมไปด้วยวิตามินดี เควอซิติน และซีลีเนียม ใส่ใบผักโขมที่อุดมไปด้วยลูทีนและเบตาแคโรทีนลงในพาสต้าร้อน พื่อให้มันเหี่ยวและกลายเป็นส่วนหนึ่งของซอสก็จะทำให้อาหารนั้นเด็กสามารถที่จะรับประทานได้อย่างง่ายดายมากขึ้นหรืออาจจะลองทำสมูทตี้ด้วยผักโขมและตั้งชื่อธีมสีเขียวที่ลูกๆนั้นอาจจะรู้จักจากการ์ตูนเป็นต้น

ลองสังเกตและดูว่าลูกๆนั้นชอบรับประทานผักอะไร เมื่อรู้ว่าเข้าชอบอะไรก็ปรุงอาหารหรือเครื่องดื่มด้วยผักเหล่านั้น

ดังนั้นแล้วพ่อแม่ผู้ปกครองนั้นจะต้องอดทนไว้การให้ลูกของคุณกินอาหารก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจกินมันเข้าไปจริงๆ และมีการสร้างสรรค์อาหารอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับการรับประทานผักและผลไม้ในทุกมื้อด้วย

หรืออาจะลองวางแอปเปิ้ล ส้ม และกล้วยลงในตะกร้าผลไม้บนโต๊ะรวมถึงผลไม้อื่นๆที่มีประโยชน์หรือผลไม้ตามฤดูกาลและใส่ผักที่เสิร์ฟบนจานอาหารอยู่เสมอ แต่สิ่งที่สำคัญนั้นคือการไม่บังคับให้พวกเขากินอาหารเหล่านี้ แน่นอนว่าในครั้งแรกนั้นเมื่อเด็กๆรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของผักและผสมไม้เข้าไปนั้นจะไม่ได้ถูกปากตั้งแต่ครั้งแรกอย่างแน่นอน เด็กๆนั้นจะเมินอาหารของผู้ปกครอง ดังนั้นแล้วถึงแม้เด็กจะเมินอาหารมากกว่า50 ครั้งผู้ปกครองพ่อแม่จึงต้องอดทน เพราะยิ่งถ้าหากมีความอดทนมากเท่าไหร่ โอกาสในการกินผักและผลไม้ของเด็กนั้นก็พิ่มากขึ้นเช่นกัน

การพยายามถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่การพาลูกๆนั้นออกไปช็อปปิ้งก็เป็นอีกทางหนึ่งที่สร้างความผ่อนคลายและช่วยทำให้เด็กนั้นสามารถที่จะรับประทานผักหรือผลไม้ได้มากขึ้นด้วย ผักผลไม้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามอย่าลืมให้เด็กๆนั้นรับประทานผักในทุกๆมื้ออาหารด้วย

 

สนับสนุนโดย.    huaydee

โรคเบาหวานคืออะไรเกณฑ์การวินิจฉัย

เบาหวานคือภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดเราเรียกว่าน้ำตาลกลูโคสในเลือดมีความเข้มข้นสูงมากกว่าปกติเกิดจากที่กลไกลควบคุมน้ำตาลในเลือดของร่างกายมันเสื่อมสมรรถภาพไป

ซึ่งอาจจะเกิดจากว่าตับอ่อนสร้างฮอร์โมนอินซูลินโดยปกติจะกระตุ้นให้อวัยวะต่างๆดึงเอาน้ำตาลไปใช้หลั่งฮอร์โมนตัวนี้น้อยกว่าปกติหรือว่าอาจจะเกิดจากว่าอวัยวะต่างๆในร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินน้อยลงก็เลยดึงเอาน้ำตาลไปใช้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ

คราวนี้เกณฑ์การวินิจฉัยเบาหวานในปัจจุบันเราอาศัย4เกณฑ์ก็คือเกณฑ์แรกเจาะเลือดออกมาหลังจากที่อดอาหารมาอย่างน้อยที่สุด8ชั่วโมงและมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดมีค่าตั้งแต่126มิลลิกรัมต่อเลือด1DL 

เกณฑ์ที่สองคือเจาะเวลาไหนก็ได้ ถ้าเจาะออกมาแล้วระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดมีค่าตั้งแต่200มิลลิกรัมต่อเลือด1DLโดยที่มีอาการที่น่าสงสัยว่าน่าจะมีโรคเบาหวานร่วมด้วยอันนี้ก็เรียกว่าเบาหวายเหมือนกัน

เกณฑ์ที่สามก็คือ เรียกว่าค่าน้ำตาลสะสม หรือ ภาษาอังกฤษที่เรียกว่าHemoglobin A1C ค่าตัวนี้มันจะเป็นตัวบอกถึงระดับน้ำตาลเฉลี่ยในเลือดของเราเองในช่วงเวลา2เดือนที่ผ่านมา ถ้ามีค่าตั้งแต่6.5%ขึ้นไปก็ถือว่าเป็นเบาหวาน

เกณฑ์ที่สี่ก็จะเป็นการทำการทดสอบ โดยการให้คนไข้ ดื่มน้ำตาลกลูโคส75กรัมหลังจากนั้น2ชั่วโมงก็เจาะดูน้ำตาลกลูโคสในเลือดถ้ามีค่าตั้งแต่200มิลลิกรัมต่อเลือด1DLก็ถือว่าเป็นเบาหวาน

ในปัจจุบันเราถือว่าจะเป็นเบาหวานต้องทำอย่างน้อย2เกณฑ์หรือ1เกณฑ์ทำ2ครั้งก็ถือว่าเป็นเบาหวานไม่ใช่ว่าทำเกณฑ์เดียวแล้ววินิจฉัยเลย

นอกจากนี้เบาหวานมีผลต่อร่างกายอย่างไร เนื่องจากว่าระดับน้ำตาลในเลือดถ้าเกิดว่าถ้าให้เปรียบเทียบปฏิกิริยาที่จะเกิดขึ้นจากน้ำตาลในเลือดที่สูงจะคล้ายๆกับเวลาเราเอาเช่นเอาไก่ชุบซอสหวานๆไปปิ้งแล้วมันเกิดอาการเหลืองๆเกรียมๆขึ้นมาแข็งๆ

ซึ่งร่างกายคนเราก็จะเป็นแบบนั้นเหมือนกันเพียงแต่ว่าจะค่อยๆเป็นไปเรื่อยๆในระยะเวลาหลาย10ปีก็จะเกิดการเสื่อมสภาพของอวัยวะต่างๆเนื่องจากตัวหลอดเลือดซึ่งมันสัมผัสกับน้ำตาลกลูโคสที่สูงมากๆมันจะค่อยๆเปราะแข็งอุดตันได้ง่าย

เส้นประสาทเสื่อมสภาพเพราะฉะนั้นถามว่าภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวที่น่ากังวลจริงๆของเบาหวานเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกายแต่ที่คนทั่วไปข้าใจกันดีอยู่แล้วก็คือว่าอาจจะทำให้ตาบอดได้

เนื่องจากหลอดเลือดที่ตาเสื่อมสภาพไปไตวายได้หลอดเลือดสมองตีบได้มีอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือความจำเสื่อมก่อนวัยอันควรกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้ถ้าเส้นเลือดที่ขาตีบก็อาจจะเดินไม่ไหวหรือเป็นแผลเรื้อรังจนจะต้องตัดขาออกเลยก็มีเช่นกัน

 

สนับสนุนโดย.  huaydee